6 ประเภทของโฆษณาบน YouTube ที่คนทำช่อง YouTube ควรรู้ 🛒

YouTube ไม่เพียงแค่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการดูวิดีโอเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการโฆษณาสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยรูปแบบโฆษณาหลายประเภทที่มีให้เลือก เพื่อให้ตอบสนองกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด ในบทความนี้ น้องทู้ปจะมาพูดถึง 6 ประเภทของโฆษณาบน YouTube พร้อมกับข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาทั้งในแง่มุมของผู้ซื้อโฆษณา ผู้ชม และครีเอเตอร์กันนะคะ

1. In-feed Video Ads : โฆษณาที่แสดงในฟีดของผู้ชม โฆษณาประเภทนี้จะจะพบเจอได้ 3 ที่ 

   
   

   - หน้าโฮมฟีด 

   
   

   

   
   

   - หน้าผลการค้นหา

   
   

   

   
   

   - YouTube Watch Next ซึ่งจะอยู่ใกล้กับคลิปวิดิโอที่เกี่ยวข้องซึ่งจะอยู่ทางด้านขวาของวิดิโอที่เรากำลังรับชม

ข้อดีของโฆษณาประเภทนี้ คือ โฆษณาประเภทนี้จะไม่ค่อยรบกวนการชมวิดิโอของผู้ชมมากนัก เนื่องจากปรากฎเพียงในหน้าฟีด และครีเอเตอร์จะได้รับรายได้นี้หากครีเอเตอร์กดคลิกชมโฆษณาที่อยู่ข้างวิดิโอของเรา แต่โฆษณาประเภทนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ ถ้าหากโฆษณามีความน่าสนใจน้อย ก็จะทำให้ผู้ชมคลิกเข้าไปที่โฆษณานั้นน้อย และค่าโฆษณาเมื่อเทียบกับ In-stream ads จะค่อนข้างต่ำ 

2. Masthead Ads : โฆษณาที่ปรากฏบนหน้าแรกของ YouTube 

โฆษณาประเภทนี้จะเล่นวีดีโอ อัตโนมัติโดยไม่มีเสียงนานถึง 30 วินาที ในอัตราส่วน 16:9 ผู้ชมมักให้ความสนใจและรับรู้โฆษณาได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการเปิดตัวสินค้าหรือแคมเปญที่โดดเด่น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการซื้อพื้นที่โฆษณา

3. Skippable In-stream Ads : โฆษณาที่สามารถข้ามได้หลังจาก 5 วินาที

ตามชื่อเลยก็คือ ผู้ชมสามารถกดข้ามโฆษณานี้ได้หลังจากผ่านไป 5 วินาที และครีเอเตอร์จะได้รับรายได้จากการที่ผู้ชมชมโฆษณาจนถึง 5 วินาที แต่สำหรับผู้ลงโฆษณาแล้ว เนื่องจากโฆษณาตัวนี้เปิดให้กดข้ามได้ ทำให้ผู้ชมอาจไม่ได้รับรู้ถึงเนื้อหาโฆษณาทั้งหมด

4. Non-skippable In-stream Ads : โฆษณาที่ไม่สามารถข้ามได้

โฆษณาตัวนี้อาจไม่ถูกใจผู้ชมนัก และโฆษราประเภทนี้แหละที่อาจเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้ผู้ชมหันไปสมัคร YouTube Premium กันเลยทีเดียว เนื่องจากผู้ชมจะถูกบังคับให้รับชมโฆษณาแบบเต็มไปจนจบ (หงุดหงิดดดด) ไม่สามารถกดข้ามได้ และอาจส่งผลให้ผู้ชมไม่รับชมวิดิโอของเราได้ สำหรับครีเอเตอร์แล้วจะคอนเฟิร์มว่าได้รับรายได้จากการโฆษณาอย่างแน่นอน แถมรายได้ยังค่อนข้างสูงด้วย  แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้ลงโฆษณาในเรื่องของความยาวที่จำกัด และยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า

5. Bumper Ads : โฆษณาสั้น ๆ ที่มีระยะเวลา 6 วินาที

โฆษณาประเภทนี้น้องทู้ปขอเรียกว่า ‘โฆษณาวิ่งผ่านสายฝน’ เพราะมักมาในรูปแบบสั้นๆ มาไวไปไว ส่งข้อความเร็วๆ สั้น กระชับ ไม่นาน อาจไม่ขัดใจผู้ชมมาก แต่อาจทำให้ผู้ชมได้รับสารน้อยไปจนถึงไม่ได้รับเลย สำหรับครีเอเตอร์แล้วรายได้จากโฆษณาประเภทนี้จะค้่อนข้างน้อยกว่าประเภทอื่นๆ

6. YouTube Shorts Ads : โฆษณาที่แสดงในวิดีโอ Shorts

โฆษณาประเภทนี้จะแสดงใน Shorts ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้จำนวนมาก แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้ลงโฆษณา เนื่องจากไม่เหมาะสมกับโฆษณาที่ต้องการสื่อสารเนื้อหายาวๆ แสำหรับครีเอเตอร์ เนื่องจากรายได้จากการรับชม Shorts นั้นแสนจะน้อยเมื่อเทียบกับวิดิโอ Long Form 

น้องทู้ปขอแนะนำให้เพื่อนๆครีเอเตอร์ทำความเข้าใจโฆษณาแต่ละรูปแบบเพื่อนำไปปรับใช้ตั้งค่าการลงโฆษณากับช่องของเราให้เหมาะสม ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มรายได้ของช่องเราได้อีกด้วยนะคะ😊

รู้จักรูปแบบโฆษณาบนยูทูปทั้ง 6 ประเภทได้ที่วิดิโอด้านล่างนี้เลยค่ะ👇🏻